บทความรถยนต์

รวมเทคนิคประหยัดน้ำมันในวันที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

ช่วงนี้ผู้ใช้รถส่วนตัวอาจจะรู้สึกเซ็งกับราคาน้ำมัน ที่ขึ้นพรวดพราดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและไม่มีทีท่าว่าจะลงง่ายๆ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่ได้สูงมากมาย เหมือนเมื่อหลายปีก่อนด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อไม่สามารถควบคุมราคาน้ำมันได้อย่างใจคิด สิ่งที่คนใช้รถทำได้ด้วยตัวเอง ก็มีเพียงแค่หาทางประหยัดน้ำมันให้ได้มากที่สุดเท่านั้น

สำหรับวิธีการประหยัดน้ำมันก็มีอยู่หลายวิธี ซึ่งเราสามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนสตาร์ทรถกันเลยทีเดียว เริ่มจากการหมั่นตรวจเช็กสภาพรถอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะลมยางหากปล่อยให้อ่อนจนเกินไป เพราะเมื่อลมยางอ่อนจะทำให้หน้ายางต้องบดกับผิวถนนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักและกินน้ำมันตามไปด้วย เพื่อส่งให้ล้อเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เช่นเดียวกับไส้กรองอากาศ ถ้าปล่อยไว้จนอุดตันก็จะทำให้การระบายอากาศแย่ลง ส่งผลต่อการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ทำได้ไม่มีสิทธิภาพสักเท่าไหร่นัก และแน่นอนว่าจะกระทบต่อการกินน้ำมันอยู่แล้ว เมื่อเช็กสภาพรถไปแล้วก็มาดูกันที่ขั้นตอนสตาร์ทรถ เพราะไม่ใช่แค่เสียบกุญแจบอดแล้วจบแค่นั้น ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ เราแนะนำให้สตาร์ทปุ๊บก็ค่อยๆ ออกตัวแบบปล่อยไหลไปเรื่อยๆ ห้ามเหยียบอุ่นคันเร่งอุ่นเครื่องและพุ่งออกตัวอย่างรวดเร็ว เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ

ต่อเนื่องจากการออกตัวรถกันไปเลยดีกว่า เมื่อขับแล้วก็อย่าไปเหยียบคันเร่งย้ำๆ ต่อให้หงุดหงิดแค่ไหนก็ให้สงบใจไว้ก่อน และคิดในใจเอาไว้เสมอว่า “เปลืองน้ำมัน เปลืองน้ำมัน เปลืองน้ำมัน” จากนั้นก็พยายามรักษาระดับความเร็วเอาไว้ที่ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากไม่มีเหตุให้รีบจริงๆ ก็ควรขับแค่นั้นพอ ibet789 แต่ถ้าอยู่ในซอยแคบเอาแค่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ได้นะ

หากเป็นไปได้ก็พยายามอย่าเหยียบเบรกบ่อยๆ แต่เน้นไปที่ความพยายามชะลอความเร็วของรถ จะสามารถประหยัดน้ำมันได้มากกว่า และหากต้องหยุดรถนานๆ จนเกินไปแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนจากการเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกมาเป็นมาเข้าเกียร์ N แทน ซึ่งวิธีนี้ก็ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้เยอะดีเหมือนกัน